เช่า wifi ญี่ปุ่น รับเครื่องได้ที่ไทย ใช้งานได้ที่ญี่ปุ่น ส่งเครื่องกลับคืนในไทย |
เลือกหมวดสินค้าที่ต้องการค้นหา |
มีบางคนบอกว่า โทรศัพท์มือถือมีอิทธิพลกับการดำรงชีวิตของผู้คนในปัจจุบันมาก จนยกให้เป็น “ปัจจัยที่ 5” ของสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของมนุษย์ไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากมองไปทางไหนก็มีแต่คนพกโทรศัพท์มือถือ เพราะโทรศัพท์มือถือมีประโยชน์มากมาย รวมถึงสามารถช่วยลดการใช้พลังงานในภาวะราคาน้ำมันแพงด้วย
เนื่องจากสามารถใช้โทรศัพท์มือ ถือติดต่อสื่อสารได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แทนการเดินทางเพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ อาทิ
•การใช้โทรศัพท์มือถือ ติดต่อประสานงาน ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือพัฒนาไปมากกว่าแค่การพูดคุยเท่านั้น แต่สามารถเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตได้ด้วย ดังนั้นจึงมีผู้ใช้ระบบการสื่อสารเพื่อทำงานนอกสถานที่หรือทำงานที่บ้านแทน การเดินทางมาทำงานที่สำนักงานจำนวนไม่น้อย ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานได้มาก
•การใช้โทรศัพท์มือถือ นัดหมายบุคคล หรือนัดหมายวัน เวลา สถานที่ ที่แน่ชัดดำเนิน กิจธุระ เพื่อลดความเสี่ยงในการผิดนัด หรือการใช้โทรศัพท์มือถือพูดคุยทักทายเพื่อนฝูง ญาติสนิท แทนการเดินทางไปพบในบางโอกาสก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้
•การใช้โทรศัพท์ตรวจ สอบความถูกต้องหรือชี้นำเส้นทาง กรณีที่ต้องเดินทางไปในสถานที่ไม่คุ้นเคย เพื่อป้องกันการขับรถหลงทาง ซึ่งนอกจากทำให้สิ้นเปลืองพลังงานแล้วยังเสียเวลาอีกด้วย
•การใช้โทรศัพท์มือถือ สื่อสารกันระหว่างประเทศ เช่น การติดต่อธุรกิจระหว่างประเทศทางโทรศัพท์ มีส่วนช่วยลดเชื้อเพลิงสำหรับการบินได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ นอกจากเราจะใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์มือถือเพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว ต้องรู้วิธีประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของโทรศัพท์มือถือด้วย เพราะส่วนประกอบทุกชิ้นมีกำหนดอายุการใช้งาน เช่น แบตเตอรี่ มีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี ซึ่งหากเราไม่รู้วิธีการใช้นอกจากจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน ยังทำให้อายุการใช้งานสั้นกว่าที่กำหนดได้ สำหรับเคล็ดลับยืดอายุการใช้งานและประหยัดพลังงานในการใช้โทรศัพท์มือถือ คือ
•ถอดสายชาร์จออกทันที เมื่อแบตเตอรี่เต็ม หากยังใช้แบตเตอรี่ไม่หมด ไม่ควรชาร์จไฟ เพราะจะทำให้เสื่อมเร็ว
•ลดความสว่างหน้าจอลง
•ปิดฟังค์ชั่นบลูทูธ ไวร์เลส เมื่อไม่ใช้งานทันที
•ตั้งค่าสแตนด์บายไว้ ให้ต่ำที่สุด
โทรศัพท์มือถือใช่ว่า จะมีประโยชน์เฉพาะช่วงเวลาที่ยังใช้งานได้เท่านั้น แต่เมื่อหมดอายุการใช้งานแล้วยังสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ถึง 80% และอีก 20% สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการรีไซเคิล จากสถิติของสมาคมผู้ประกอบการสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นระบุว่า เครื่องโทรศัพท์จำนวน 66,000 เครื่องสามารถรีไซเคิลโลหะทองได้ 1 กิโลกรัม จำนวน 97,000 เครื่องรีไซเคิลโลหะเงินได้ 1 กิโลกรัม นอกจากนี้สถิติของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ของสหรัฐฯ ชี้ว่า พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากโทรศัพท์มือถือรีไซเคิลจำนวน 10,000 เครื่องเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งปีสำหรับ 19 ครอบครัว อีกทั้งช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เท่ากับปริมาณรถขนาดเล็ก 14 คัน นอกจากนี้เศษชิ้นส่วนที่เหลือยังนำไปบดเป็นชิ้นส่วนของวัสดุก่อสร้างถนนหรือ ถมถนนได้อีกด้วย
แต่ปัญหาก็คือ หากผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทุกคนไม่มีระเบียบในการทิ้งโทรศัพท์ที่เสื่อมสภาพ แล้วละก็จะทำให้เกิดโทษมหันต์เช่นกัน เพราะส่วนประกอบบางอย่างในโทรศัพท์มือถือเป็น “ขยะพิษ” โดยเฉพาะแบตเตอรี่ มีส่วนประกอบที่เป็นโลหะหนักมีอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
ดังนั้นผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ทั้งหลายต้องให้ความร่วมมือทิ้งโทรศัพท์มือถือเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้ งาน ในถังขยะที่เขียนว่า “ขยะพิษ” หรือนำไปหย่อนในกล่องรับโทรศัพท์ แบตเตอรี่เก่า ซึ่งมีตามจุดที่บริษัทโทรศัพท์มือถือจัดวางไว้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
หากคุณใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์มือถืออย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบ ต่อสังคม จงภูมิใจได้ว่าคุณคือคนหนึ่งที่ “ใช้โทรศัพท์มือถือ อย่างฉลาด...ประหยัดพลังงาน…รักษาชีวิตและสิ่งแวดล้อม”
อ้างอิงข้อมูลจาก : นิตยสารสกุลไทย
นิตยสาร first mobile
http://community.siamphone.com
www2.thailandpages.com