ราคา Mobile Phone  ราคา Mobile Phone  ราคา Mobile Phone

มีราคา ดอทคอม ราคา ดูราคา ค้นหา ราคาถูก

ราคา ค้นหา ค้นหาร้าน ราคาถูก

   ราคา Mobile Phone
Nokia   BlackBerry   Apple   Oppo   Motorola   Samsung   Sony Ericsson   LG   i-mobile   GNET   Wellcom   HTC   
ราคา Mobile Phone Mobile Phone
[ 798 ร้านค้า ]
ราคา คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์
[ 216 ร้านค้า ]
"> ราคา เครื่องสำอาง<script async src=" width="38" height="40" border="0" /> ">เครื่องสำอาง
"> [ 456 ร้านค้า ]
ราคา สินค้าทั่วไป สินค้าทั่วไป
[ 2269 ร้านค้า ]
ราคา แฟชั่น แฟชั่น
[ 712 ร้านค้า ]
"> ราคา คอนโดมิเนียม<script async src=" width="38" height="40" border="0" /> ">คอนโดมิเนียม
"> [ 30 ร้านค้า ]




ราคามือถือมาบุญครอง mbk มือถือราคาถูก เปรียบเทียบราคามือถือ mbk

เช่า wifi ญี่ปุ่น เช่า wifi ญี่ปุ่น รับเครื่องได้ที่ไทย ใช้งานได้ที่ญี่ปุ่น ส่งเครื่องกลับคืนในไทย
 



เลือกหมวดสินค้าที่ต้องการค้นหา


เครือข่ายมือถือ

AIS
1175

1175

1175

1175

0-2502-5000

1678

1678

1128

1331

1777

0-2900-9000

PCT
0-2900-9000


ตรวจสอบยอดเงินมือถือ

*911

900121

1811

*1001

#123#

91111


เบอร์ศูนย์บริการทั้งหมด

0-2255-2111

0-2248-3030

0-2689-3232

0-2351-8666

0-2722-1118

0-2351-8666

0-2975 – 5555

0-2641 5159-60

0-2363-4355

HTC
0-2640-3399

081-122-5766

1175 ?? 8

082-000-3333

TWZ
0-2953-9400

0-2308-1010

LG
0-2204-1888





แพคเกจร้านค้าออนไลน์


เช็คราคาMobile Phone CHECK PRICE | ค้นหาราคาMobile Phone เช็คราคาMobile Phoneวันนี้

Nokia   BlackBerry   Apple   Oppo   Motorola   Samsung   Sony Ericsson   LG   i-mobile   GNET   Wellcom   HTC   
เทคนิคป้องกันตัวจากการโดนหลอกลวงรีดไถเงิน สำหรับ ร้านมือถือ

ระวังกลุ่มคนหลอกลวงรีดไถเงินร้านมือถือและอื่นๆ พร้อมวิธีป้องกันตัวครับ

ยุคนี้มีการหากินกันแปลกๆเกิดขึ้นเยอะ การละเมิดลิขสิทธิ์กำลังเป็นที่จับตาในสังคม จึงเกิดกลุ่มคนที่คิดค้นอาชีพจับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์
อาชีพจับของละเมิดลิขสิทธิ์ครับ ใครมีญาติหรือเพื่อนโดนรังแก หรือยังไม่โดนก็โปรดนำไปให้อ่านด้วยนะครับ

การจับของแท้จากเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรง ทำเพื่อให้คนหันมาใช้ของแท้ ไม่ใช่ทำเพื่อเรียกเงินเกินจริงจากเหยื่อ

พูดง่ายๆคือ ตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์ในลิขสิทธิ์นั้นๆ แต่ไปสมัครเพื่อไปไถเงินคนครับ แต่ถ้าทำตามกฎมันก็ไถเงินได้น้อยครับ คนจึงไม่เล่นตามกฎหมาย ใช้วิธีไถเงินและข่มขู่แทน

ที่จริงมันไม่ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตครับ แต่ร้ายแรงตรงที่เป็นภัยสังคมครับ
ผู้เสียหายจะโดนไถเงินรายละ 10000-50000 บาท แต่ที่ผมบอกว่าร้ายแรงเพราะว่า มีคนโดนไปทั่วประเทศแล้วครับ

จุดเริ่มต้นแก๊งไถเงินครับ
1. เริ่มด้วยการตั้งบริษัทจำกัด แล้วรวบรวมขอซื้ออำนาจดำเนินคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา จากเจ้าของลิขสิทธิ์จริงเท่าที่ทำได้ เช่นเพลง กระเป๋า น้ำหอม เกม การ์ตูน โดยบริษัทเหล่านี้จะอ้างคุณธรรม ตั้งเพื่อปราบผู้ละเมิดลิขสิทธิ์
2. บริษัทเหล่านี้จะหาตัวแทน(ก็คือการรับพนักงานบริษัทตัวเอง)
3. ตัวแทนเหล่านี้จะหาสมาชิกแบบขายตรงเลยครับ เรียกว่าผู้รับอำนาจช่วง
4. ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองครับ แต่ก็มีโรงพักบางแห่งไม่ให้ความร่วมมือกับพวกโจร
5. เดินสายจับแบบผิดกฎหมายครับทีละจังหวัด ย้ายไปเรื่อย วนเวียนกลับมาทุกๆ 3-6เดือน
6. มีการทำธุรกิจนี้มาหลายปีแล้วครับ ประมาณ 7 ปี

 


 

 

รายได้
ตัวแทนพวกนี้จะรวยมาก รายได้เกินจะคาดเดา แต่ที่พบเห็นคือสามารถออกรถป้ายแดงกันทุกคน BMW ก็มี
-บางกลุ่มออกรถแวนป้ายแดงราคา 6 ล้านก็มี
-หัวหน้าบางคนทำจนมีเงินฝากถึง 200 ล้านบาท
-เห็นมั้ยครับว่าการตั้งบริษัทถูกกฎหมาย แต่ดูเจตนาการตั้งสิครับ เจตนาไม่ได้ทำเพื่อปราบหรือให้คนหันมาใช้ของแท้ แต่ทำเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าครับ

การไถแต่ละเเบบมีดังนี้ครับ



 

 

การไถเงินร้านขายมือถือ
1. ไถแบบจับลิขสิทธิ์ MP3
1.1 หน้าม้าจะหลอกให้ลงเพลง mp3 หรือ โปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์ใส่มือถือ
1.2 จะมีคนมาจับอ้างว่าเป็นตัวแทน มาพร้อมตำรวจ
1.3 ไถเงิน 50000 บาท

วิธีแก้ไขเบื้องต้น
- อย่าคุยกับพวกมันไล่พวกมันกลับไป คุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น แม้แต่โรงพัก เพราะมันไม่มีหมายศาล หมายค้น
- หากพวกมันดื้อไม่กลับก็ปิดร้าน โทรตามพวกมาเย๊อะๆ
- อย่ายอมจ่ายเงินให้มันเด็ดขาด ถ้าจะจ่ายก็จ่ายให้มันไป 200 บาท บอกว่าช่วยค่าน้ำมันรีบๆกลับบ้านไปเถอะ
- ถ้ามันโง่มากไม่รู้กฎหมายยังดื้อแจ้งความ ก็ไม่ต้องจ่ายอยู่ดีครับ คดีล่อซื้อแบบนี้ศาลยกฟ้องครับ คุณชนะแน่นอน
- แต่ส่วนใหญ่พวกนี้ไม่โง่ขนาดนั้น มันไม่ฟ้องศาลหรอกครับ ถ้าไม่จ่ายมันก็กลับไปเฉยๆ ต่อให้ฟ้องไปแล้ว พวกตัวแทนไม่มาขึ้นศาลหรอกครับ คุณก็ชนะอยู่ดี

2. ไถแบบจับหน้ากากมือถือ แบตปลอม ซองปลอม
2.1ตัวแทนปลอมจะอ้างว่ามาจับหน้ากากปลอม
2.2 ไถเงิน 50000 เช่นกัน
- แต่กรณีจับหน้ากากนั้น มีของแท้นะครับ ถ้าเป็นของแท้ จะไม่ไถเงินคุณครับ ไถก็อย่าจ่ายครับ
- จ่ายในศาลครับ ของแท้จะมากับตำรวจกองปราบและตำรวจเศรษฐกิจ แต่จะจับแต่ร้านใหญ่ๆครับ
- อันนี้ถ้าผิดจริงคุณก็ต้องยอมจ่ายครับ แต่สารภาพในศาลว่ามูลค่าที่ขายนั้นเท่าไหร่ ศาลจะให้คุณจ่ายตามจริง+ค่าเสียหายฝ่ายตรงข้ามนิดหน่อย
- ถ้าผิดจริงผมไม่มีวิธีแก้ให้นะครับ แค่ผ่อนหนักเป็นเบา


 

 

ข้อกฎหมาย ที่ต้องรู้ครับ
ล่อซื้อ
พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 66 บัญญัติว่า ความผิดตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์เป็นความผิดอันยอมความได้ ผลทางกฎหมายคือ เจ้าของลิขสิทธิ์จะต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่รู้ตัวผู้กระทำละเมิดและรู้ถึงการละเมิด
มิฉะนั้นจะขาดอายุความร้องทุกข์
และการแจ้งความร้องทุกข์จะต้องกระทำโดยผู้เสียหาย หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายจะต้องเป็น "ผู้เสียหายโดยนิตินัย"
แต่หากผู้เสียหายเป็นผู้มีส่วนร่วม หรือก่อให้เกิดการกระทำความผิดขึ้น ก็ไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยที่มีอำนาจฟ้องคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คำพิพากษาฎีกาที่ 4301/2543 การที่จำเลยกระทำความผิดโดยทำซ้ำบันทึกโปรแกรมคอมพิวเตอร์อันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ลงในแผ่นบันทึกข้อมูลถาวรของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้แก่ส. ตามที่ส.ได้ ล่อซื้อ นั้น เกิดขึ้นเนื่องจากการล่อซื้อของส. ซึ่งได้รับการจ้างให้ล่อซื้อจากโจทก์ เท่ากับโจทก์เป็นผู้ก่อให้เกิดการกระทำความผิดขึ้น โจทก์ย่อมไม่อยู่ในฐานะผู้เสียหายที่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้
เพราะฉะนั้น การล่อซื้อและการส่งหน้าม้ามาลงเพลงในคอมพิวเตอร์/การล่อเล่นในกรณีเกมส์เพลย์ จึงเป็นกรณีที่เจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกานี้ จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอำนาจฟ้อง

ข้อย่อยที่ช่วยได้เบื้องต้น ยาวแต่ต้องอ่านนะครับ มันสำคัญทุกข้อครับ

1. จับกุมลิขสิทธิ์ได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้น ถ้ามาตอนมืด ถึงจะถูกต้องก็ไล่กลับไปได้เลย
2. หากมีคนอ้างเป็นตัวแทน ขอดูบัตรประชาชน ดูใบรับมอบอำนาจจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ดูบัตรของผู้รับมอบจะต้องมีบัตรของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าไม่ให้ดูไล่พวกมันกลับไปได้เลย
3. การล่อเล่นของหน้าม้า เป็นการร่วมกระทำความผิด ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ไม่มีอำนาจแจ้งความร้องทุกข์
4. ร้านคอมฯปฏิเสธไม่ให้ตรวจเครื่องคอมฯได้นะครับถ้ามันไม่มีหมายค้น ในส่วนของตัวร้าน(สาธารณสถาน)อยากตรวจก็ให้ตรวจไป แต่เครื่องคอมฯไม่ใช่สาธารณสถานเรามีสิทธิปฏิเสธไม่เปิดให้ตรวจสอบได้
5. ตัวแทนลิขสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์อธิบายขั้นตอนการจับกุม กฎหมายเขียนชัดเจนให้เป็นหน้าที่ของตำรวจชุดจับกุมให้เป็นผู้จัดทำบันทึกการจับกุม ไม่มีกฎหมายให้อำนาจราษฎรทำ เป็นข้อต่อสู้ของจำเลยข้อหนึ่งได้ว่ามันมั่วนิ่มไม่รู้กฎหมายแล้วมาจับ
6. ราษฎรก็จะช่วยตำรวจจับไม่ได้แม้ตำรวจจะขอให้ช่วยจับ เพราะ ตำรวจจะขอให้ราษฎรช่วยจับได้ต้องเป็นผู้จัดการตามหมายจับเท่านั้น(เช่น โจรที่มีหมายจับ) แต่การจับละเมิดลิขสิทธิ์ในความผิดซึ่งหน้าไม่ใช่การจัดการตามหมายจับ เราจึงมีสิทธิป้องกันการจับกุมอันมิชอบด้วยกฎหมายทั้งปวงกับราษฎรที่มาช่วยจับได้ตามสมควร(ต่อสู้ป้องกันตามสมควร อย่าให้ถึงตายนะครับ แบบนั้นติดคุกฐานฆ่าคนตาย ควรใช้กระบองป้องกันตัว)ไม่มีความผิดทางอาญาใดๆ
7. การล่อเล่น ไม่จำเป็นต้องเป็นตำรวจ ราษฎรก็ล่อเล่นได้ (แต่การล่อเล่นในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ถือเป็นการมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ศาลจะยกฟ้อง) เหมือนข้อ3
8. จะเป็นความผิดซึ่งหน้า ต้องดูที่ลักษณะของการกระทำ ไม่ใช่ดูที่ตัวผู้ล่อเล่นว่าเป็นตำรวจหรือไม่เป็นตำรวจ ความผิดซึ่งหน้า หมายถึง ความผิดซึ่งเห็นกำลังกระทำ หรือพบในอาการใด ซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าได้กระทำผิดมาแล้วสดๆ (ดูประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 80)
9. ดูที่ประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญามาตรา 79 ราษฎรก็สามารถจับความผิดซึ่งหน้าได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ แต่ต้องเป็นความผิดบางประเภทเท่านั้น (คือความผิดที่บัญญัติไว้ท้ายประมวลป.วิอาญา) เช่น ฐานฆ่าคนตาย เป็นต้น แต่ความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ใช่ความผิดท้ายประมวลฯ ราษฎรจึงจับไม่ได้แม้เห็นความผิดเกิดขึ้นซึ่งหน้า
10. การละเมิดลิขสิทธิ์ต้องเกิดซึ่งหน้าตำรวจเท่านั้นเช่นนั่งไลท์แผ่นต่อหน้าต่อตาตำรวจ ตำรวจจึงจะมีอำนาจจับกุม (และต้องมีการแจ้งความแล้ว ถ้ายังไม่แจ้งความก็ไม่มีสิทธิ์จับในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์) ถ้าการละเมิดเกิดต่อหน้าตัวแทนบริษัท(หน้าม้า) แม้จะถ่ายรูปไว้ ถ้าขณะนั้นตำรวจไม่ได้เห็นด้วย(ตำรวจอยู่นอกร้าน-มาทีหลัง) ก็ไม่มีอำนาจจับกุมครับ
11. การค้นในที่รโหฐาน เช่น ส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัย ต้องมีหมายค้น ถ้าเข้าไปยึดแผ่นเโดยไม่มีหมาย ก็เป็นการค้นที่ไม่ชอบ ทรัพย์สินที่ยึดไปไม่สามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ต้องห้ามตามกฎหมาย เพราะฉะนั้น ถ้าขึ้นศาลก็จะไม่มีพยานหลักฐานนำสืบแสดงว่าเราทำผิด (แม้เราละเมิดจริง แต่เมื่อไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเราทำผิด เพราะหลักฐานที่ยึด ได้มาจากการค้นที่ไม่ชอบ) ศาลจะยกฟ้อง
12. หลัก ตำรวจจะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับหรือคำสั่งศาลไม่ได้(ดูประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา78) ข้อยกเว้น จะจับโดยไม่มีหมายจับก็ได้ เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้า และเหตุอื่นตามที่กฎหมายกำหนด (ดูประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 80) คดีละเมิดลิขสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์จับ
แต่ถ้าเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว เช่นคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ต้องมีการแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหรือตัวแทนเสียก่อน ตำรวจจึงจะมีอำนาจจับ ดังนั้น ถ้ายังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ อำนาจจับกุมก็ยังไม่เกิด แม้จะมีการละมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้นต่อหน้าตำรวจ ตำรวจก็จับไม่ได้

ปล. จุดไหนผิดพลาดโปรดชี้แนะด้วยครับ

การเอาผิดกลับ
ปัจจุบันโทษรุนแรงเพียงพอแล้วครับ เพียงแต่พวกเราไม่มีใครเอาจริงเท่านั้น เพราะถ้ามั่วนิ่มมา เราก็สามารถเอาผิดได้ หลายข้อหา เช่น

1. ฐานบุกรุก มาตรา 362 และ 364 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำและปรับ มาตรา 365 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ
2. ฐานแจ้งความเท็จ มาตรา 137 จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำและปรับ มาตรา 172 จำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 174 จำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
3. ฐานเบิกความเท็จ มาตรา 177 จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นหรือทั้งจำทั้งปรับ
4. ฐานฉ้อโกง มาตรา 341 จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (คือโดยทุจริต รู้อยู่ว่าตนไม่มีอำนาจจับ แต่ได้หลอกลวงว่าตนมีอำนาจเช่นว่านั้น และการหลอกลวงนี้ทำให้ได้เงินจากเราไป ก็จะผิดฐานฉ้อโกงนี้)
5. ฐานกรรโชกทรัพย์ มาตรา 337 คือถ้ามีการบังคับข่มขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือบุคคลที่สาม จนยอมเช่นว่านั้น มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่น ถ้าการกรรโชกทำโดยขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายฯ หรือมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปีและปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท จะผิดข้อหาใด ฐานใดต้องดูข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะพิจารณาและหาพยานหลักฐาน ที่บอกว่าควรจะต้องตรวจสอบก่อนนั้นว่ามั่วมาหรือไม่ กรณีนี้ ตัวแทนนำจับรู้ตัวมันอยู่แต่แรกแล้วว่าตัวเองมีสิทธิหรือไม่ เป็นการกระทำโดยเจตนาชัดเจน หน้าที่ในการตรวจสอบเป็นของตำรวจ ก่อนรับแจ้งความต้องตรวจสอบเอกสารให้ละเอียดว่าผู้แจ้งมีอำนาจแจ้งหรือไม่ ใครเป็นผู้รับมอบอำนาจ ใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ต้องมีเอกสารชัดเจนจึงจะรับแจ้งความได้ ถ้าตำรวจบกพร่องละเลยไม่ตรวจสอบแล้วรับแจ้งความ ถ้าปรากฏภายหลังว่าการแจ้งความไม่ถูกต้อง ไม่มีสิทธิ ไม่มีอำนาจจริง ตำรวจจะมีความผิดทั้งทางวินัยและอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 เราสามารถเอาผิดได้ทั้งตัวแทนนำจับและตำรวจครับ ถ้าตัวแทนมั่วมา แต่ถ้าเขามีสิทธิจริง เราก็ค่อยมาดูถึงวิธีการค้นและจับว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าวิธีการค้นและจับไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราก็สามารถเอาผิดกับพวกมันและตำรวจที่มาส่ง ได้เช่นกัน

อันนี้ มีผู้หวังดีเสริมให้ครับ ซ้ำคงไม่ว่ากัน

การล่อเล่น ไม่จำเป็นต้องเป็นตำรวจ ราษฎรก็ล่อเล่นได้ การล่อเล่นในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ถือเป็นการมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ศาลจะยกฟ้อง

การค้นในที่รโหฐาน เช่น ห้องนอน ห้องครัว ส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัย ต้องมีหมายค้น ถ้าเข้าไปยึดแผ่นเกมส์โดยไม่มีหมาย ก็เป็นการค้นที่ไม่ชอบ ทรัพย์สินที่ยึดไปไม่สามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ต้องห้ามตามกฎหมาย เพราะฉะนั้น ถ้าขึ้นศาลก็จะไม่มีพยานหลักฐานนำสืบแสดงว่าเราทำผิด (แม้เราละเมิดจริง แต่เมื่อไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเราทำผิด เพราะหลักฐานที่ยึด ได้มาจากการค้นที่ไม่ชอบ) ศาลจะยกฟ้อง

หลัก ตำรวจจะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับหรือคำสั่งศาลไม่ได้ (ดูประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 78)
ข้อยกเว้น จะจับโดยไม่มีหมายจับก็ได้ เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้า และเหตุอื่นตามที่กฎหมายกำหนด (ดูประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 80)ความผิดซึ่งหน้า หมายถึง ความผิดซึ่งเห็นกำลังกระทำ หรือพบในอาการใด ซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าได้กระทำผิดมาแล้วสดๆ (ดูประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 80)

ราษฎร(หมายถึงตัวแทนบริษัทด้วย)สามารถจับความผิดซึ่งหน้าได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ แต่ต้องเป็นความผิดอาญาบางประเภทเท่านั้น (คือความผิดที่บัญญัติไว้ท้ายประมวลป.วิอาญา) เช่น ฐานปล้นทรัพย์ ฐานฆ่าคนตาย เป็นต้น แต่ความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ใช่ความผิดท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ราษฎรจึงจับไม่ได้แม้เห็นความผิดเกิดขึ้นซึ่งหน้า )

มีมุขใหม่ของพวกมันครับ

มีคนโดนหลอกล่าสุดครับ เมื่อวันที่ 27 เมษา ร้านมือถือครับ (ไม่ขอเอ่ยย่าน เกรงเจ้าของร้านจะอายในความฉลาดที่มีอยู่)

เจ้าของร้านนำข้อความที่ผมโพสให้มันอ่าน มันบอกว่า..

พวกโจร : กฎหมายเก่านะ เพิ่งเลิกใช้เอง....
เจ้าของร้าน : ครับ..ยอมจ่ายไป 10000 บาท

ขอกราบเรียนเลยครับ...อย่าเชื่อคนง่ายแบบนี้นะครับ ถ้ามันบอกอะไรให้คิดเสียว่า มันบอกคุณว่าว่า "พ่อคุณเป็นหมา" คุณยังจะเชื่อมั้ย

จำคำผมไว้ครับ ...คำพูดทุกคำที่พวกมันพูดมาคุณทำหน้ายิ้มๆแล้วแกล้งฟัง อย่าฟังจริงนะ ให้คิดในหัวว่ามันพูดคำว่า "พ่อคุณเป็นหมา" "พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา""พ่อคุณเป็นหมา"

เท่านี้คุณก็จะไม่โดนหลอก แต่ถ้าคุณยังเชื่อที่มันบอกว่า "พ่อคุณเป็นหมา" คงจะแย่ครับ ผมคงช่วยอะไรไม่ได้ครับ

ปล. คนที่กำลังโดนอยู่ก็ท่องให้ขึ้นสมอง อย่าจ่ายเงินนอกศาล อย่าจ่ายเงินนอกศาล อย่าจ่ายเงินนอกศาล อย่าจ่ายเงินนอกศาล อย่าจ่ายเงินนอกศาล อย่าจ่ายเงินนอกศาล วันละ 100 จบ

ปล2. ขอโทษนะครับไม่ใช่หยาบคายนะครับ ที่ต้องใช้คำแรงๆ มันจะได้จำขึ้นสมองครับ

ขอบคุณมากๆ ครับ ขอให้บุญกุศลครั้งนี้ทำให้ทุกคนเจอแต่สิ่งดีๆ มีแต่คนช่วยเหลือเมื่อเจอภัย

 

ที่มา  http://hitech.sanook.com/

 

 

โดย: มิสเตอร์ใจดี  เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2555
จำนวนผู้เข้าชม : 2,462

ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
4. dom33

 



Mirakar@ copyright 2009 created by www.mirakar.com
ราคามือถือ ค้นหาราคามือถือ และราคาสินค้าอื่นๆ ได้ที่นี่
ที่อยู่ : 222/5 ถนนหลานหลวง แขวงคลองมหานาค ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100  อีเมล :