เช่า wifi ญี่ปุ่น รับเครื่องได้ที่ไทย ใช้งานได้ที่ญี่ปุ่น ส่งเครื่องกลับคืนในไทย |
เลือกหมวดสินค้าที่ต้องการค้นหา |
เดี๋ยวหันไปไหนก็มีแต่คนใช้สมาร์ทโฟนกันเต็มไปหมด นั่นก็เป็นเพราะมีราคาถูกลงกว่าเดิมมาก และด้วยเหตุผลที่สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้อย่างไม่มีขีดจำกัด จึงมีอะไรให้เล่นมากขึ้น และเมื่อเล่นมาก แบตเตอรี่ก็หมดเร็วตามไปด้วย หลายคนจึงแก้ปัญหาด้วยการซื้อแบตเตอรี่ก้อนที่ 2 ของรุ่นนั้นๆ แต่ก็ไม่สะดวกในการชาร์จอยู่ดี เพราะต้องถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เข้าออกๆ เพื่อชาร์จ
และหลายๆ คนก็ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้อย่างเช่นไอโฟนเป็นต้น แบตเตอรี่เสริมแบบภายนอก หรือที่เรียกกันว่าโมบายล์บูสเตอร์จึงเป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้ใช้หลายๆ คน เพราะนำไปชาร์จนอกสถานที่ได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดแบตในตัวเครื่องออก ซึ่งก็มีหลากหลายขนาดตั้งแต่ 1,000 มิลลิแอมป์ ไปจนถึง 10,000 มิลลิแอมป์ก็มี แต่จะเลือกอย่างไรให้ตรงกับความต้องการ เพราะบางคนใช้มาก ใช้น้อยแตกต่างกันไป เรามีสูตรคำนวนมาฝากกันครับ
รู้จักกับสูตรคำนวนกำลังไฟฟ้าแบบง่ายๆ
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพื้นฐานกันก่อนครับ
แรงดันไฟฟ้า มีหน่วยเป็นโวลท์ (Volt) ลองนึกภาพท่อน้ำก่อนนะครับ แรงดันไฟฟ้าเปรียบเสมือนกับความแรงของน้ำ ยิ่งแรงดันมากเท่าใด ก็ยิ่งส่งได้ไกลมากเท่านั้น อย่างเช่นแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านจะมีแรงดัน 220 โวลท์ แต่หากใช้ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ก็จะใช้แรงดันไฟต่ำลงมา อย่างเช่น 5-12 โวลท์ และแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนจะมีแรงดันประมาณ 3.7 โวลท์
กระแสไฟฟ้า มีหน่วยเป็นแอมแปร์ (Ampere) กระแสไฟฟ้าเปรียบเสมือนปริมาณน้ำที่ไหลผ่านในท่อ ยิ่งมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านมากก็ยิ่งกินไฟมาก แบตเตอรี่ก็จะเต็มเร็วขึ้น
วัตต์ (Watt) คือหน่วยวัดพลังงานไฟฟ้า โดยมีหน่วยเป็นวัตต์
สูตรคำนวนการใช้ไฟฟ้า
ความเชื่อที่ว่าแบตเตอรี่เสริมที่ซื้อมีปริมาณแอมป์เท่านี้ สามารถใช้ได้เต็มควาจุ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการที่แบตเตอรี่เสริมจะชาร์จเข้ากับโทรศัพท์มือถือที่ใช้แบตเตอรี่แรงดัน 3.7 โวลท์ได้นั้นต้องแปลงให้มีแรงดันสูงกว่าคือ 5 โวลท์จึงจะชาร์จเข้าไปได้ ซึ่งการแปลงนี้จะมีผลทำให้จำนวนแอมป์ในแบตเตอรี่เสริมลดน้อยลงตามสูตรคำนวนการใช้ไฟฟ้าพื้นฐานง่าย คือ P = IV ตัวอักษรทั้ง 3 คือตัวแปรมีความหมายดังนี้
P คือ วัตต์
I คือ แอมป์
V คือ โวลท์
ยกตัวอย่างเช่นเราต้องการซื้อแบตเตอรี่เสริมขนาด 5,000 มิลลิแอมป์ (5 แอมป์) และแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนมีแรงดันไฟฟ้า 3.7 โวลท์ แทนค่าในสูตรในสมการได้ดังนี้
P = 5 x 3.7
P = 18.5 วัตต์ ดังนั้นแบตเตอรี่เสริมก้อนนี้ให้พลังงานได้ 18.5 วัตต์
และเมื่อนำมาชาร์จกับโทรศัพท์มือถือของเราก็จะต้องแปลงแรงดันให้สูงขึ้นเป็น 5 โวลท์ เพื่อให้มีแรงดันสูงกว่า จึงจะชาร์จแบตเตอรี่ของเราได้ เราจึงนำค่าที่ได้มาแทนในสมการ P = IV อีกครั้ง เพื่อแปลงกลับให้ได้กระแสไฟฟ้า หรือปริมาณแอมป์ที่ได้
18.5 = I x 5
I = 18.5 / 5
I = 3.7 แอมป์ ดังนั้นกระแสไฟฟ้าที่ถูกแปลงเป็น 5 โวลท์ จะมีกระแสไฟฟ้าเหลือ 3.7 แอมป์ หรือ 3,700 มิลลิแอมป์ นั่นก็หมายความว่า หากโทรศัพท์ของเรามีแบตเตอรี่ความจุ 1,000 มิลลิแอมป์ก็นำไปหารค่าที่ได้ นั่นก็คือ 3,700 / 1,000 จะชาร์จโทรศัพท์ของเราได้ประมาณ 3.7 ครั้ง
หรือหากแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือของเรามีความจุ 1,500 มิลลิแอมป์ นำไปหาร 3,700 มิลลิแอมป์ก็จะได้ 2.46 ครั้ง หรือประมาณ 2 ครั้งกว่าๆ แต่การชาร์จแต่ละครั้งจะมีพลังงานที่สูญเสียไปกับวงจรไฟฟ้า และการแปลงแรงดันไฟฟ้า ปริมาณไฟฟ้าที่สูญเสียไปจะอยู่ในรูปแบบของความร้อนที่เกิดขึ้นกับตัวเครื่อง และแบตเตอรี่ โดยคิดเป็นปริมาณไฟฟ้าที่สูญเสียไปประมาณ 10% หรือมากกว่า จากที่ชาร์จได้ 2 ครั้ง อาจจะเหลือเป็น 1.8 ครั้ง ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของวงจรไฟฟ้าที่ออกแบบมา
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับสูตรคำนวนพร้อมตัวอย่างการคำนวน หวังว่าท่านผู้อ่านจะไม่งงกับสูตรการคำนวน และตัวแปรต่างๆ ที่ผมอธิบายนะครับ ซึ่งก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไป เพราะเป็นสมการง่ายๆ เพียงแค่ย้ายตัวแปรไปมา ยังไงลองทำความเข้าใจ รับรองว่าไม่ยากเกินไปแน่นอนครับ
ที่มา http://www.whatphone.net